พาลูกเที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน 2019

hong kong disneyland

วันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ที่พาลูกไปเทียวฮ่องกงครับ โดยทริปนี้เป็นอีกทริปที่ผมบอกเลยว่าหนักสุดๆ สำหรับผมครับ (ไม่เคยมีทริปสบายจริงๆ ) เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ในประเทศที่ได้ชื่อว่ามีค่าครองชีพที่สูงที่สุดในโลกอันดับ 4 ครับ สำหรับประเทศนี้คุณพ่อ คุณแม่ต้องศึกษาข้อมูลก่อนไปเทียวในจุดไหนอย่างไรถึงจะคุ้มค่าที่สุดลองมาดูที่ผมบอกได้เลยครับ ทริปนี้ผมไปกับเพื่อนอีกกลุ่มครับ ประมาณ 6 คนได้ครับโดยไปนัดเจอกันที่ฮ่องกงอีกที โดยช่วงที่เทียวคือเดือนต้นเดือนมีนาคมครับ


เทียวบิน

ขาไป บินจากเชียงใหม่ไปฮ่องกงด้วยเที่ยวบิน Airasia FD 515 เครื่องออก
6:05 am ถึงฮ่องกงเวลาไทย 9:45 am ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 40 นาที เครื่องเป็น Airbus 320
ขากลับ บินจากฮ่องกงถึงเชียงใหม่ด้วยเทียวบิน Airasia FD 516 เครื่องออก 10:35 am ถึงเชียงใหม่ 12:25 am ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 50 นาที

ข้อมูลการบิน
– ที่นั่งไม่กว้างมากครับพอนั่งได้
– เช็คอินต้องเผื่อเวลาหน่อยครับ เพราะคนจีนใช้บริการค่อนข้างเยอะมากๆ ในสนามบินเชียงใหม่แถวยาวเลย ผมไปเช็คอินตอนตี 4 ที่สนามบินกว่าจะเสร็จใช้เวลานานเหมือนกัน ที่สนามบินฮ่องกงก็คนเยอะเช่นกันครับแถวยาวและเช็คอินช้ามากกว่าจะได้เช็คอินยืนเกือบชั่วโมงเลยครับ
– บนเครื่องไม่มีอาการให้บริการครับ
– สนามบินฮ่องกงมี Shop ของ Disneyland ครับ หากพลาดซื้อของฝากจากที่ Hongkong  Disneyland มาช้อปต่อได้ที่นี้ครับ
– เด็กสามารถนำรถเข็นใช้งานก่อนขึ้นเครื่องหน้า Gate ได้ครับที่สนามบินฮ่องกง
– ตม. ที่ฮ่องกงและเชียงใหม่ทำงานเร็วมากครับ ไม่ต้องจะช้ามากเกินไปครับ
– ในช่วงระหว่างบินลูกผมก็ไม่มีปัญหาอะไรมากครับไม่ร้องไห้เครื่องบินขึ้นลงด้วย เพราะบินประมาณ 3 ชม. มีเบื่อบ้างก็ให้ดูการ์ตูนบน ipad ไปครับ ซึ่งหากใครต้องการวิธีการดูแลลูกตอนเครื่องบินขึ้นลงดูที่นี้ได้ครับผมสรุปไว้แล้วจากประสบการณ์พาลูกบินปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 ไฟต์

ข้อมูลทริปเทียว
ไปเทียวทั้งหมด 4 วัน 3 คืน
วันที่ 1 หลังไปถึงไปที่สนามบินฮ่องกงได้เข้าไปที่เลาจน์ Plaza Premium Lounge ก่อนเลยครับโดยใช้บัตร JCB Platinum เข้า แล้วก็รอจนเพื่อนลงเครื่องจึงเดือนทางไปที่พัก หลังเอากระเป๋าไปเก็บก็ไปเที่ยววัดกังหัน หรือ วัดแชกงหมิว (Sha Tin Che Kung Temple) และต่อด้วยดูการแสดงแสงสี Symphony of Lights ที่ Kowloon Public Pier เสร็จแล้วกลับที่พักย่าน Mong kok วันนี้เดินไป 10.48 km

วัดแชกงหมิว
วัดแชกงหมิว
วัดแชกงหมิว
วัดแชกงหมิว
Symphony of Lights
Symphony of Lights

วันที่ 2 จุดหมายวันนี้คือ HongKong Disneyland เทียวทั้งวันกลับตอน 2 ทุ่มเลยครับ เพื่อรอดูขบวนพาเหรดสุดอลังการสมกับที่รอจริงๆ ทั้งวันที่เทียวในนี้ก็มีของเล่นมากมายเด็กสนุกสุดๆ ไปเลยครับ โดยรีวิวแยกของ HongKong Disneyland ผมเขียนไว้ที่นี้แล้วครับ เพราะที่นี้เป็นที่ๆ ลูกสาวผมชอบมากที่สุดเลยครับ มีข้อมูลครบมากๆ ทั้งการเดินทาง,ค่าผ่านประตู,รีวิวเครื่องเล่น,ข้อมูลการเตรียมตัวเข้าไปเทียว และอื่นๆ อีกมากมาย เสร็จแล้วกลับที่พักย่าน Mong kok โดยวันนี้ทั้งวันเดินไป 7.69 km

HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland
HongKong Disneyland

วันที่ 3 ทริปของวันนี้คือไป Ngong Ping 360 นั่งกระเช้าไปไหว้พระใหญ่ตรงนี้ใครกลัวความสูงจริงๆ จังๆ อย่าได้มาครับเพราะมันจะนั่งข้ามน้ำทะเล ไต่ไปตามเขาสูงมากและหวาดเสียวสุดๆ  ที่วางเท้าก็เป็นกระจกใสเห็นข้างล่างเลยครับ ซึ่งหลังจากกลับจากที่นี้ผมก็แยกกับเพื่อนเทียวครับ โดยไป Shopping ที่ Mong Kok แทน วันนี้ทั้งวันเดินไป 7.78 km

ngong ping 360 ขออภัยที่รูปภาพไม่สุภาพครับ
ngong ping 360 ขออภัยที่รูปภาพไม่สุภาพครับ
ngong ping 360
ngong ping 360
ngong ping 360
ngong ping 360
ngong ping 360 พระใหญ่
ngong ping 360 พระใหญ่
ngong ping 360
ngong ping 360

วันที่ 4 วันนี้เดินทางกลับแต่เช้าเลยครับ ไม่ได้ไปเทียวที่ไหนเลยครับไปทานติ่มซ้ำที่ร้าน Dim Dim Sum Mong kok เสร็จก็ไปสนามบินเพื่อรอนั่งเครื่องกลับเชียงใหม่เลย โดยวันนี้ทั้งวันเดินไป 4.05 km

สถานที่ท่องเทียว
ในทริปนั้นใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน สถานที่เทียวในฮ่องกงนั้นมีค่อนข้างเยอะมากจนไม่สามารถที่จะเทียวให้หมดได้ใน 4 วัน ตามความจริงแล้ว plan เทียวฮ่องกงรอบนี้ผมไม่ได้เป็นคนวางแผนด้วยครับเป็นเพื่อนกลุ่มที่มาเทียวด้วยกันโดยบางสถานที่ๆ ที่เหมาะกับเด็กผมก็ไม่ได้ไปด้วยครับ เลือกเทียวที่เหมาะกับเด็กและตัวพ่อแม่เองพาลูกเทียวกันไหว หากใครคิดไม่ออกว่าไปฮ่องกงไปเทียวไหนดี สามารถเข้าดูได้ที่นี้ครับเป็นการ List สถานที่ท่องเทียวในฮ่องกงที่อัปเดทมากที่สุดในโลกแล้วครับคือ Google Map + Things to do นั้นเอง ส่วนที่เทียวที่แนะนำสำหรับเด็กมี 
– Disneyland เหมาะกับเด็กที่สุดแล้วครับ
– Ngong Ping 360 เด็กไปได้ครับเขาจะสนุกถ้าได้นั่งกระเช้าสูงๆ
Shopping ย่าน Mong kok ที่นี้มีของเด็กค่อนข้างเยอะครับ
Symphony of Lights ที่ Kowloon Public Pier ไม่เหมาะกับเด็กมากเท่าไรเพราะลมแรงและอากาศหนาว เราต้องรอให้การแสดงเริ่มด้วยครับเขาไม่ค่อยโอเคกับการรอนานๆ เท่าไร
วัดแชกงหมิว อันนี้ไม่เหมาะเช่นกันครับ เพราะควันธูปเยอะมาก แต่หากพ่อกับแม่อยากไปแนะนำแวะไปได้แล้วรีบออกมา

google map hong kong
google map hong kong

ที่พัก
ส่วนตัวความเห็นจากที่ไปเทียวมานั้นถ้าเอาให้เหมาะกับเด็กที่สุดคือไปแค่ที่ Hong Kong Disneyland แล้วก็พักที่ใน resort ใน Disneyland เลยครับ เพราะแค่กิจกรรมและของเล่นใน Disneyland 1 วัน ก็เล่นไม่หมดแล้วครับ ถ้าไปเที่ยวข้างนอกก็สามารถต่อไปที่ Ngong Ping 360 หรือสถานที่อื่นๆ ได้เช่นกัน แต่ราคาจะแรงมากเช่นกันครับเริ่มที่หลักหมึ่นบาทไทยต่อคืนเลย ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่นี้ครับ ซึ่งถ้าจะให้พักที่นี้สักสองคืนก็จะแพงเกินไปอีกทางเลือกคือพักในย่านอื่นไปเลยครับส่วนตัวผมพักที่ Sunny Day Hotel Mong Kok ครับ โซนที่น่าพักส่วนตัวผมว่าก็มี Tsim Sha Tsui, Mong Kok, Sheung Wan ส่วนที่อื่นๆ สามารถลองศึกษาเพิ่มเติมได้ครับ ว่าเราถูกใจอะไรในสถานที่ไหน ส่วนตัวผมมองว่ามันก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากครับสามารถเดินทางไปมาได้สะดวกเหมือนกันหมดแต่สำหรับครอบครัวที่มีเด็กอยากให้พักย่าน Shopping มากกว่าครับเผื่อบางทีเรากลับมาพักแล้วไม่อยากเทียวที่ไหนแล้วก็สามารถเดิน Shopping ได้ ส่วนการเลือกโรงแรมนั้นที่ฮ่องกงห้องจะค่อนข้างเล็กครับในปกติ แนะนำให้อัปเป็นห้องใหญ่ครับถ้าราคาไม่ต่างกันมากจนเกินไป รวมไปถึงเช็คให้ดีครับว่าเตียงเป็นเตียงกี่ฟุต , เป็น 2 เตียงหรือเตียงเดียวนะครับ เพราะผมไปถึงแล้วเจอแยกเป็น 2 เตียงครับ เราจะนอนไม่ค่อยสะดวกเท่าไรเพราะเด็กต้องนอนตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ ส่วนอีกอย่างที่อยากให้ตรวจสอบคือการเดินทางระหว่างโรงแรมกับรถไฟครับว่าระยะทางห่างกันมากไหม โดยใช้ Google Map เข้าคำนวนเส้นทางเลยว่าเดินจากสถานีกี่กม. จะถึงโรงแรม รวมระยะทางทั้งไป-กลับด้วยครับอย่าให้เกิน 2 กม. จะดีที่สุดครับ

 Hong Kong Disneyland Hotel

Hong Kong Disneyland Hotel

ของลูกที่ต้องเตรียมไป
– เสื้อผ้าทั่วไปและเสื้อกันหนาว
– ยารักษาโรค ควรเอายากที่ป้องกันอาการเป็นหวัดไปทั้งหมดครับเช่นลดน้ำมูก,แก้ไอ้,ลดไข้ เพราะไปเจออากาศหนาวเด็กอาจจะป่วยได้ทันทีครับ
-ของเล่นและของใช้ทั่วไป
– นมจากประเทศไทยที่ฮ่องกงมีนมขายหลากหลายแบบมากครับ ถ้าหากว่าเด็กไม่ชอบกินนมยี่ห้ออื่นเลยเราต้องไปลองเสี่ยงดวงดูที่ฮ่องกง ว่าแบบไหนที่เขาชอบทาน โดยมากรสชาติจะไม่ต่างกับบ้านเรามากครับ
– หน้ากากกันฝุ่น จำเป็นต้องใช้เพราะคนฮ่องกงสูบบุหรี่กันเยอะมากทุกตึกทุกหัวมุมเลย เด็กควรใส่หน้ากากไว้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้สูดเอาควันบูหรี่เข้าไป

อาหาร
ที่ฮ่องกงสำหรับเด็กมีอาหารที่พอทานได้หลายเมนูมากครับซึ่งปกติที่หาทานได้ตลอดทั่วไปคือเป็ด,หมูอะไรพวกนี้ที่มีทุกหัวมุมตึก ซึ่งหากเราอยากเปลี่ยนแนวร้านอาหารก็สามารถเปิด Google Map แล้วใส่ไปว่า restaurants google map จะแสดงร้านอาหารที่อยู่ใกล้เราออกมาให้ครับ วิธีนี้จะช่วยเลือกร้านอาหารที่ดีระดับหนึ่งให้กับเราได้ไม่ต้องเสี่ยงดวงว่าจะอร่อยไหม แนะนำให้ดูด้วยครับว่าภายในร้านสูบหรี่ได้ไหม เพราะบางร้านก็สูบบูหรี่ได้ครับ ซึ่งไม่ควรเข้าครับ โดยรวมไม่ต้องเป็นห่วงมากครับถ้าคิดไม่ออกสามารถเดินเลือกร้านอาหารแทนก็ได้ครับง่ายดี

Google map restaurants
Google map restaurants

การเตรียมความพร้อมของพ่อแม่
แม้จะเขียนมาแล้วหลายทริปเรื่องการเตรียมความพร้อมของพ่อและแม่ผมก็ยังจะย้ำอีกรอบครับ เป็นเรื่องที่ควรต้องเตรียมตัวก่อนไปมากที่สุดคือ
1. ออกกำลังกาย ก่อนไปต้องออกกำลังกายครับเพราะที่ฮ่องกงนี้บอกเลยไม่มีลิฟท์ขึ้นลงรถไฟเลยครับ เราต้องอุ้มลูกเพื่อขึ้นและลงบันไดเองครับ โดยบัดไดจะส่วนใหญ่ก็จะเป็นบัดไดเลื่อนครับ หลังขึ้นรถไฟบางครั้งเราก็ต้องอุ้มลูกบนรถไฟเช่นกันครับเพราะในบางเวลาคนแน่นมากๆ ต้องพับรถเข็นเด็กเลย แต่ที่นี้คนก็ใจดีครับหากเห็นเราอุ้มเด็กเขาก็จะลุกให้เรานั่งครับ หากไม่เชื่อว่าต้องเดินเยอะก็ลองกลับขึ้นไปดูรายละเอียดที่ผมลงไว้ในแต่ละวันได้ครับว่าเดินไปเท่าไร บางวันถึง 10 กม. เลยครับ ซึ่งเป็น 10 กม. ที่ต้องอุ้มลูกไปด้วยนะครับ วันสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องบินกลับสภาพร่างกายแทบไม่ไหวเลยเพราะเดินทางเยอะและไม่ค่อยได้พักครับเนื่องจากไปกับเพื่อนเราต้องเดินทริปพร้อมกับเขา แต่โดยรวมก็ยังรอดกลับมาได้ครับ เป็นทริปที่หนักหนาจริงๆ เพราะรอบนี้ผมออกกำลังกายน้อยมากและป่วยด้วยครับก่อนไปเทียวเนื่องจากสภาพอากาศที่เชียงใหม่ควันเยอะมากทะลุ 500 ไปเลย
2. แผนการเดินทาง ที่ฮ่องกงขึ้นรถไฟใต้ดินกับการใช้รถ Bus เป็นหลักเลยครับ ซึ่งเส้นทางรถไฟจะไม่ยากมากครับเพราะมีแผนที่ให้ดูทุกสถานีแถมมีไฟบอกด้วยครับว่าถึงตรงไหนแล้ว แต่ตอนขึ้นรถ Bus จะมีความยากอยู่ครับเพราะเราต้องขึ้นลงให้ถูก ตรงนี้ต้องศึกษาเส้นทางให้ดีครับ รถ Bus ประเทศนี้จะมีสองชั้นครับ สามารถขึ้นลงได้สะดวกดีครับ แต่จะมีปัญหาตรงวิธีการขับขี่ครับ เป็นอะไรก็ไม่รู้ครับที่ฮ่องกงรถ Bus จะไม่ยอมแตะเบรกเลยถ้าไม่ถึงโค้งหรือจะถึงไฟแดงซึ่งลูกผมพุ้งไปข้างหน้าเลยครับ โชคดีที่รับไว้ทันเพราะมันเบรกกันแรงมากๆ ผมเลยเลิกนั่งเลยครับ และเลือกทริปเทียวเฉพาะที่สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟใต้ดินเท่านั้น ซึ่งหากคิดว่าเราดูแลลูกได้บนรถ Bus ก็จะขึ้นก็ได้นะครับ ส่วนตัวผมนั้นไม่ไหวจริงๆ เพราะเป็นคนเวียนหัวง่ายครับ เมารถสุดๆ ดูแลตัวเองก็ไม่รอดอยู่แล้วเลยไม่สามารถดูแลลูกได้เลย แต่การขึ้น Bus มีข้อดีคือสัมภาระของเราสามารถเก็บใต้รถหรือบนรถได้ครับเขามีที่ให้เก็บโดยเฉพาะเลย
3. ตรวจสอบเอกสารการเดินทาง ควรต้องเอา Passport มาเปิดตรวจสอบให้ครบทุกคนครับ เพราะผมเจอครอบครัวคนไทยที่บินมากับลูกสองคนบอกว่าภรรยามาด้วยไม่ได้เนื่องจาก Passport หมดอายุก่อนบิน 7 วันครับ(ข้อมูลสำคัญควรทำ Passport ใหม่ก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 1 เดือนเพราะถ้าทำก่อนเดินทางไม่กี่วัน Passport เก่าจะถูกยกเลิกหาก Passort ใหม่ส่งมาไม่ทันก็เดินทางไม่ได้) หากไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้ก็ควรตรวจสอบก่อนบินครับ และควรเช็คตั๋วเครื่องบินด้วยครับว่าบินตอนไหน รวมถึงเผื่อเวลาไว้ตอนเช็คอินด้วยเพื่อไม่ให้ตกเครื่อง
4. ประกันการเดินทาง ควรซื้อไว้แต่เนื่องจากเราไปไม่กี่วันแนะนำให้ซื้อ plan ที่ราคาถูกที่สุดดีกว่าหากเป็นอะไรแล้วไปเสี่ยงเอาข้างหน้าครับ โดยที่มีคนใช้กันเยอะๆ ก็จะมี  msig กับ simpo

Bus HongKong
Bus HongKong
Shop ของ HongKong Disneyland ในสนามบิน
Shop ของ HongKong Disneyland ในสนามบิน

ข้อมูลน่าสนใจอื่นๆ
– บัตร Octopus สามารถซื้อได้ทันทีที่ทางออกรับกระเป๋าในสนามบินฮ่องกง ใช้ Passport ในการขอยื่นซื้อด้วยครับราคาอยู่ที่ 150 เหรียญ เป็นเงินในบัตร 100 และมันจำอีก 50 ครับ
– ฮ่องกงนี้คนสูบบุหรี่เยอะมาก หากไม่ชอบกลิ่นบูหรี่ให้เตรียมหน้ากากมาด้วยครับ
– ที่ฮ่องกงกำลังฮิตสินค้าของประเทศญี่ปุ่นกันมากครับ พวกเครื่องสำอาง , ของใช้จะตีแบรด์ญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่
– อากาศที่นี้จะเย็นในตอนเช้าและกลางคืนควรเตรียมเสื้อกันหนาวมาและตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย