Kawaguchiko

Kawaguchiko Station

เริ่มตั้งต้นกันที่ Kawaguchiko Station ซึ่งพวกผมใช้เป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทาง โดยพักที่โรงแรม Kawaguchiko Station Inn ใกล้ๆ กับสถานีนั้นเอง ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบเมือง Kawaguchiko มากๆ เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายอย่าง ผู้คนในเมืองนี้ดูแล้วช่างเป็นมิตรกันจริงๆ อยู่ที่นี้กันสองวัน วันแรกสถานที่ ที่ไปกันมาคือ

Lake Kawaguchiko

Lake Kawaguchiko เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่มีวิวสวยงาม สามารถนั่งเรือโจรสลัดชมความงามของเมืองได้จากตรงนี้ หรือขึ้นกระเช้า (Kachi Kachi Ropeway) ชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบด้านล่างและของภูเขาไฟฟูจิ แต่วันที่ผมไปนั้นเขากำลังปิดปรับปรุงเลยไม่ได้ขึ้นไปชมกันครับ

Iyashi no Sato

Iyashi no Sato เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของชาวญี่ปุ่นที่เคยทำอาชีพเกษตรกรรมมาก่อน และเมื่อปี 1966 ถูกมรสุมทำลายลง หลังจากนั้นอีก 40 ปีได้ปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านหัตถกรรมแบบดั้งเดิม ให้ผู้คนได้เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ในบ้านหลังจากๆ นี้มีหัตถกรรมต่างๆ จำหน่ายด้วยครับ

หากเดินขึ้นไปบนหมู่บ้านอีกนิด ก็จะได้มุมถ่ายรูปวิวภูเขาไฟฟูจิที่ค่อนข้างสวยเลยครับ

Chureito Pagoda

Chureito Pagoda หรือเจดีย์แดง ญี่ปุ่น ที่คนไทยมักเรียก Chureito Pagoda เป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้า Arakura Sengen Shrine สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสันติภาพในปี 1963 มีบันไดเดินขึ้นไปประมาณ 400 ขั้น (เล่นเอาหอบเลยครับ) ข้างล่างมองเห็นวิวเมือง Fujiyoshida และเป็นจุดถ่ายภาพที่ช่างภาพมักจะมากัน

หลังจากไป Iyashi no Sato กันมาแล้วเวลาเหลือครับ เลยหาที่เที่ยวอีกที่หนึ่ง เลยคุยกันว่าจะมาที่นี้ครับ ได้ข้อมูลจากกระทู้ในพันทิพย์ในการเดินทาง (ลิงค์อยู่ข้างล่าง) Chureito Pagoda คือสถานที่ ที่ผมประทับใจที่สุดใน Trip สิบวันนี้ครับ และรู้สึกโชคดีมากที่ได้มาที่นี้ มาถูกที่ถูกเวลาด้วย ตอนที่มานั้นพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว เลยรีบวิ่งมากัน (กะจะมาถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินกับภูเขาไฟภูจิ วิ่งขึ้นบัดได 400 ขั้นเล่นเอาหอบเลยครับ) แต่พอเห็นวิวเมือง Fujiyoshida แล้วคิดว่าถ้าค่ำอีกหน่อยรอคนเปิดไฟน่าจะถ่ายรูปสวยกว่านี้ เลยอยู่รอเวลาถ่ายภาพกันครับ และ

แล้วก็ไม่ผิดหวังกันจริงๆ ภาพที่ได้มาสวยมากๆ เหมือนกำลังอยู่ในหนังเรื่อง Hugo มีระฆังดังต๊องแต่งๆ มีรถไฟวิ่งไปมาๆ มีรถยนต์วิ่งสลับกัน ไฟในบ้านเปิด มองเห็นวิวข้างล่างได้อย่างสวยงาม..  ถึงแม้อากาศจะหนาวแค่ไหนก็ทนได้ครับ ถ้าใครได้ไปแนะนำที่นี้เลยครับ แต่ตอนลงมานั้นลำบากมากๆ เพราะไม่มีไฟเลยสักดวงครับ คงไม่ได้ทำเผื่อไว้ให้คนมาตอนกลางคืน ฉะนั้นควรพบไฟฉายไปด้วยนะครับ ผมก็ถือว่าโชคดีที่เอาติดตัวไปครับ ชมบรรยายกาศได้จากใน Clip ข้างล่างเลยครับ

นอกจากสามที่นี้แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจมากๆ ด้วยครับ เช่น Fuji-Q Highland, Kubota Museum, Oshino Hakkai, Music Forest, Lake Saiko, Lake Yamanakako, Caves เป็นต้น ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูนะครับ จัด Trip ญี่ปุ่นห้ามพลาดเมืองนี้เลยครับ Continue reading “Kawaguchiko”

สวนสนุก ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland)

Fuji-Q Highland

ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) เป็นสวนสนุกที่อยู่ใกล้ภูเขาฟูจิ อยู่ในเมืองฟูจิโยชิดะ จังหวัดยะมะนะชิ หากขึ้นเครื่องเล่นไปคุณจะมองเห็นภูเขาฟูจิเสมอ ค่าบัตรเข้าผู้ใหญ่ 4,500-5,000 เยน (แต่วันนั้นผมซื้อ 4,200 เยน ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงลดราคา) เด็ก 3,700 เยน หรือจะซื้อบัตรเข้าเฉยๆ 1,200 เยน แล้วถ้าจะขึ้นเครื่องเล่นก็ไปซื้อแยกอีกทีก็ได้ครับ (เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวครับ) ถ้าซื้อสองวันราคาจะถูกลงไปอีก (ดูราคาได้จากลิงค์ข้างล่างครับ) วันธรรมดาจะเปิด 9.00 – 17.00 น. วันหยุดเปิด 9.00-20.00 น. แต่ถ้าเป็นช่วง Summer เปิด 8.00 – 21.00 น.

ที่ฟูจิคิวไฮแลนด์แห่งนี้มีเครื่องเล่นที่มีชื่อเสียงหลายตัว เช่น

Fujiyama

Fujiyama (ในภาพคือเครื่องเล่นสีดำที่อยู่ฝั่งขวามือด้านใน) เปิดในปี 1996 มีความสูง 79 เมตร มีความเร็ว 130 km/h Fujiyama เคยเป็นรถไฟเหาะสูงที่สุดในโลก สถิติล่าสุดเมื่อปี 2007 ตกลงมาอยู่ที่อันดับ 8 ของโลก เป็นรถไฟเหาะที่ยาวที่สุดอันดับ 5 ของโลก และเป็นรถไฟเหาะที่เร็วที่สุดอันดับ 10 ของโลก

Dodonpa

Dodonpa เปิดในปี 2001 มีความสูง 52 เมตร ความเร็ว 172 km/h Dodonpa เคยเป็นรถไฟเหาะเร็วที่สุดในโลก จากสถิติล่าสุดในปี 2007 ตกมาอยู่ที่อันดับ 3 แต่ก็ยังคลองสถิติการมีเร่งสูงสุดที่เวลาการเปิดตัวอยู่ครับ

Dodonpa เป็นเครื่องเล่นหวาดเสียวอันเดียวที่ผมขึ้น สุดจะอธิบาย ไม่ขอขึ้นอันอื่นอีกเลยครับ

Eejanaika

Eejanaika เปิดในปี 2006 มีความสูง 76 เมตร ความเร็ว 126km/h Eejanaika เป็นรถไฟเหาะชนิด 4 มิติ มีการหมุนมากที่สุดในโลก โดยหมุนรอบทิศทางถึง 14 ครั้งในระยะทาง 1.153 เมตร

Takabisha

Takabisha มีความเร็วถึง 100 km/h Takabisha เปิดเมื่อปี 2011 ได้รับการบันทึกว่าเป็นรถไฟเหาะที่มีความชันมากถึง 121 องศา ก่อนจะตกลงมาในความสูง 43 เมตร

Labyrinth of Fear

Labyrinth of Fear (บ้านผีสิง) ถือบ้านผีสิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สถานที่นั้นคือโรงพยาบาล ว่ากันว่าเคยเป็นโรงพยาบาลเก่ามาก่อน แล้วประสบภาวะขาดทุนจึงได้ปิดตัวลง ก่อนที่จะถูกดัดแปลงให้เป็นบ้านผีสิง (เคยมีหนังเรื่อง The Shock Labyrinth Extreme 3D มาถ่ายทำในสถานที่นี้) และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสวนสนุกแห่งนี้ ว่ากันอีกว่าอุปกรณ์ทุกอย่างนั้นเป็นของจริงทั้งหมด! บรรยายกาศทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นของจริง! หากเข้าไปแล้วเจอเสียงแปลกๆ หรือกลิ่นแปลกๆ คุณอาจจะไม่รู้เลยว่าคือของจำลองหรือของจริงกันแน่!

บ้านผีสิงจะต้องจ่ายแยกจากบัตรเหมา (บัตรเหมาผม 4,200 เยน) ราคาค่าเข้า 500 เยนครับ รู้สึกจะปิดตอน 4-5 โมงเยนด้วยนะครับ น่าจะเป็นเพราะว่ากลางคืนมันอันตรายมากๆ เพราะสถานที่นี้คือโรงยาบาลจริงๆ และมีคนตายจริงๆ (เขาคงกลัวเจออะไรแปลกๆ ตอนดึกๆ นะครับ ขู่ไว้ก่อน) บ้านผีสิงสนุกมากๆ เลยครับ ส่วนตัวแล้วชอบมากๆ มีทั้งเสียง ทั้งกลิ่น (ของจริงหรือจำลองก็ไม่รู้) บรรยายกาศนี้อินสุดๆ ครับ เดินวนไปวนมาก็ไม่ออกสักที อุณหภูมิข้างนอกตอนนั้นประมาณ 3 องศาเล่นเอาเหงื่อแตกเลยครับ ส่วนข้างในมีอะไรบ้างนั้นไม่เฉลยละกันครับ อยากให้ลองเข้าไปดูครับ :p

Continue reading “สวนสนุก ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland)”

โดทงโบริ Dotonbori

Dotonbori (2)

ย่าน โดทงโบริ (Dotonbori) หลังจากที่ไปปราสาทโอซากามามีคนไทยแนะนำให้มาเที่ยวตึกกุริโกะ หลังจากเดินหาตึกกุริโกะกันอยู่นานในที่สุดก็เจอ แต่แอบผิดหวังนิดหน่อย เพราะคนไทยที่แนะนำมาเขาบอกว่าต้องมาให้ได้นะ เราก็เข้าใจว่ามันต้องมีอะไรพิเศษเลยรีบมากัน ปรากฏว่าตึกแถวๆ นั้นสวย แปลกตากว่าเยอะเลยครับ

หลังจากผิดหวังเล็กน้อยกับตึกกุริโกะ เลยเดินข้างสะพานไปนิดหน่อยก็เจอย่านโดทงโบริซึ่งเป็นย่าน Shopping ที่เขาบอกว่าของถูกมาก (แต่ไม่ได้ซื้ออะไรนะครับ ไปเดินเที่ยวกันเฉยๆ) เขาบอกว่าที่นี่ของกินอร่อยหลายอย่าง โดยเฉพาะทาโกะยากิ ทาโกะยากิมันก็มีหลายร้านเกินแล้วร้านไหนอร่อยไม่อร่อยก็สังเกตุง่ายๆ เลยนะครับ เลือกร้านที่มีคนต่อคิวเยอะๆ นั้นละครับ :p

ตึกกุริโกะ (ที่คนไทยบอกว่าต้องมาให้ได้)

ตึกกุริโกะ

Continue reading “โดทงโบริ Dotonbori”

ปราสาทโอซากา Osaka Castle Park

Osaka Castle Park

ปราสาทโอซากา (Osaka Castle Park หรือออกเสียงภาษาญี่ปุ่นว่า โอซะกะ) เป็นปราสาทที่อยู่คู่เมืองโอซากามานาน เป็นจุดเด่นของที่นี้ สร้างขึ้นโดยโชกุนโทโยะโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) นักรบในประวัติศาสตร์ผู้พยายามรวบรวมประเทศเป็นครั้งแรก เริ่มแรกใช้เวลาเพียง 3 ปีในการสร้างโดยไดเมียวได้ส่งแรงงานหลายหมื่นคนมาช่วยเหลือเพื่อสร้างปราสาทนี้ ในปี 1615 ปราสาทนี้ถูกทำลายด้วยสงคราม จากนั้นก็มีการบูรณะใหม่ แต่ก็ถูกฟ้าฝ่าเสียหาย จนในปี 1931 ชาวเมืองโอซากาได้รวมใจกันบูรณะขึ้นมาอีกครั้ง

ปราสาทโอซากา มีทั้งหมด 8 ชั้นครับ มีค่าธรรมเนียมการเข้าชมด้วยครับ (จำไม่ได้ว่าเท่าไรครับ แต่ไม่เกิน 1000 เยน) ตอนแรกก็ลังเลกันว่าจะขึ้นไปดีหรือเปล่า แต่ตัดสินใจถูกเลยครับ ถ้าไม่ได้ขึ้นไปชมวิวเมืองโอซากาจากปราสาทจะเสียใจมากๆ ครับ สวยมากเลยครับ ปราสาทมีทั้งหมด 8 ชั้นนะครับ แต่มีลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้น 5 ที่เหลืออีก 3 ชั้นต้องเดินขึ้นไปต่อครับ ถ้าไปถึงแล้วก็ควรเดินขึ้นไปนะครับ วิวเมืองโอซากาสวยมากครับ

Osaka Castle Park (12)ระหว่างขาลงมาเขามีตราปั้มให้ปั้มด้วยครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร เลยปั้มมาเป็นที่ระลึกสักแผ่นสองแผ่น โดยรวมแล้วค่อนข้างชอบปราสาทโอซากาครับ นอกจากไปชมวิวเมืองโอซากาแล้ว บริเวณรอบๆ ปราสาทยังเป็นสวนสาธารณะสำหรับ จึงมีผู้คนมาเดินเล่น มานั่งคุยกันอย่างในภาพนั้นเลยครับ

เขาบอกว่าที่นี้ยังเป็นจุดชมดอกซากุระด้วยนะครับ (ถ้าได้มีโอกาสไปเดียวจะเก็บรูปมาฝากเพิ่มเติมครับ)  Continue reading “ปราสาทโอซากา Osaka Castle Park”

เที่ยวสามที่ ณ เกียวโต (Kyoto)

เกียวโต (Kyoto ออกเสียงภาษาญี่ปุ่นว่า เคียวโตะ) เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 794-1868 ก่อนย้ายไปโตเกียว สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมได้ไปมี 3 แห่งคือ

Kinkakuji

วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) ถ้าอ้างอิงตาม Wikipedia ก็จะออกเสียงว่า คิงกะกุจิ แต่คนไทยนิยมเรียกว่าคินคาคุจิ หรือเรียกเป็นชื่อไทยว่าวัดทอง ในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซังนั้นเอง

เนื่องจากพระภิกษุที่บวชอยู่ในวัด เกิดความหลงใหลในความงามของพระวิหารและคิดว่าการที่จะเข้าถึงแก่นแท้ของความงานต้องเผาทำลายวัตถุแห่งความงามนั้นไปด้วย จึงได้เกิดไฟไหม้ในปี ค.ศ.1955 วิหารนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาใหม่ตามแบบจำลองในปี 1950 โดยมีการหุ้มทองคำครั้งล่าสุดเมื่อปี 1987 ปัจจุบันได้รับขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก

หลังจากเดินเที่ยวในบริเวณวัดแล้วรู้สึกดีใจที่ได้มาวัดนี้ครับ มาเมืองนี้แค่ได้แวะวัดนี้ก็คุ้มแล้วครับ ตัววัดมีความสวยงามมากๆ ครับ เขาบอกว่าสวนและต้นไม้ในบริเวณวัดนี้ยังคงเป็นแบบเดิมเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ใครมาเกี่ยวโตอย่าลืมมาแวะวัดนี้นะครับ

Nijo Castle

ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)

เป็นที่พำนักและสถานที่ราชการของท่านโชกุนโทะกุงะวะ อิเอะยะซุ (Tokugawa Ieyasu) ปราสาทนิโจนี้ก็ถูกเผาทำลายเช่นกันก่อนที่ท่านโชกุนโทะกุงะวะ โยะชิโนะบุ จะใช้เป็นสถานที่ประกาศการคืนอำนาจให้แก่รัฐบาล โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมในปี 1940 ภายในปราสาทนิโจก็แบ่งออกเป็นหลายโซนตามแผนที่ในรูป ปัจจุบันได้รับขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกครับ

ตอนไปถึงนั้นมีรายการมาถ่ายพอดีครับ เดินไปรอบๆ ปราสาทแล้วกว้างมากๆ ครับ เป็นปราสาทที่มีคลองอยู่บริเวณรอบๆ มีความสวยงามมากครับ หากท่านใดจะไป ไปซื้อบัตรก่อน 16.00 น. นะครับ เขาจะปิดขายบัตรเวลานี้

Kyoto Imperial Palace

พระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต (The Kyoto Imperial Palace)

เคยเป็นพระราชวังหลักของประเทศญี่ปุ่น เมื่อสมัยตั้งแต่เมืองเกียวโตเป็นเมืองหลวง เป็นพระราชวังที่มีความเก่าแก่อีกทีหนึ่ง แต่เป็นเพราะสงครามพระราชวังนี้จึงถูกทำลายและสร้างขึ้นมาใหม่หลายครั้งด้วยกัน จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นครั้งล่าสุดถูกสร้างและเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ประชาชนได้เข้าชมเมื่อปี 1877

หากจะเข้าชมต้องลงทะเบียนก่อนครับ สามารถลงทะเบียนได้จากลิงค์ http://sankan.kunaicho.go.jp/english/index.html แล้วรอรับรหัสเพื่อทำไปใช้เข้าชมในวันที่จะไป หรือไปลงทะเบียนที่นั่นเลยครับ (เข้าชมฟรี) แต่พวกผมไม่ได้เข้าไปกัน (เวลาไม่พอ เลยถ่ายรูปแต่บริเวณรอบๆ มาครับ) เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่พาเข้าไป วันหนึ่งมีสองรอบ มีรอบ 10 โมงเช้ากับรอบบ้านสองโมง ยกเว้นวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ รวมถึงวันที่มีพระราชพิธีก็ปิดครับ

Continue reading “เที่ยวสามที่ ณ เกียวโต (Kyoto)”

Snow Monsters ที่ภูเขา ZAO เมืองยะมะงะตะ

Snow Monsters at Mountain ZAO Yamagata

Snow Monsters คือ หิมะที่ตกปกคลุมต้นสนจนมีรูปร่างคล้ายๆ ปีศาจ หลายท่านอาจจะเรียกเป็นภาษาไทยว่า ปีศาจหิมะ จุดชม Snow Monsters อยู่ที่ภูเขา ZAO ในเมืองยะมะงะตะ (Yamagata) ต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปอีกสองต่อเป็นระยะทางประมาณ 855 เมตร นอกจากนั้นแล้วที่ภูเขา ZAO แห่งนี้ยังเป็นจุดเล่นสกีที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้อีกด้วย

ข้างบน Mountain ZAO นั้นสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเร็วมากๆ ครับ เวลาที่ผมขึ้นไปก็เกือบๆ เที่ยงวันแล้วแต่อุณหภูมิขณะนั้นคือ -11.3 องศาและยังมีพายุหิมะตลอดเวลาด้วยครับ ลมแรงมากๆ ฟ้าปิดตลอดเวลา (ไม่แน่ใจว่าที่เขาถ่ายรูปกันได้สวยๆ นั้นเขาไปช่วงไหนกัน) ตอนนั้นได้ลองอัด Clip ตัวเองพูดแล้วแต่พูดไม่ออกเลยครับ ปากมันแข็งไปหมด เลยอัดเป็น Clip มาเหมือนเดิม การถ่ายรูปก็ยากลำบากมากๆ ครับ กล้องมีไอตลอดเวลา อยู่กลางพายุหิมะนานไม่ได้เลย มือและเท้ามันเย็นจนชาไร้ความรู้สึก ได้ใกล้ชิดหิมะจนปลิ้วเข้าตาเลยทีเดียว

เมืองยะมะงะตะนี้สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีครับ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปอีกหลายแห่ง เช่น The Okama Crater Lake (น่าไปมาก), Mount Yudono, Mount Haguro, Yamadera  หรือแช่ออนเซ็นแบบธรรมชาติด้วยครับลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ

 ตากับยายมาต่อคิวรอเล่นสกี

ขนาดตากับยายยังมาเล่นสกีเลย

 อาจารย์พาเด็กๆ มาสอนเล่นสกี

อาจารย์พาเด็กๆ มาสอนเล่นสกี

 พระพุทธรูปจมกองหิมะ

พระพุทธรูปจมกองหิมะ

Continue reading “Snow Monsters ที่ภูเขา ZAO เมืองยะมะงะตะ”

Asahiyama Zoo

Asahiyama Zoo

Asahiyama Zoo เป็นสวนสัตว์ที่อยู่ในเมืองอะซะฮิกะวะ จังหวัดฮกไกโด เมื่อปี 2004 นั้นถือเป็นสวนสัตว์ที่มีคนเข้าเยี่ยมชมมากเป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น มีค่าเข้าประมาณ 800 เยน ไฮไลท์ของ Asahiyama Zoo คือมีเจ้านกเพนกวินเดินขบวนกันเป็นฝูง (น่ารักมากๆ เลยครับ) แต่จะมีเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น โดยจะเริ่มต้นประมาณเดือนธันวาคมถึงประมาณเดือนมีนาคม แสดงวันละสองรอบ เวลา 11.00 น. และเวลา 14.30 น. โดยจะเดินประมาณ 30-40 นาที ระยะทางการเดินประมาณ 500 เมตรครับ

Penguin Parade in Asahiyama Zoo
Penguin Parade in Asahiyama Zoo

การเดินของเพนกวินไม่ได้ทำให้เขาเจ็บเท้านะครับ (เขาบอกมาอย่างนั้น) ส่วนนี้คือตัวอย่างการเริ่มต้นและสิ้นสุดโชว์ของพาเหรดเพนกวินในแต่ละรอบปี (โดยพิจารณาจากสภาพภูมิอากาศเป็นหลักครับ)

  • 15 ธันวาคม 2005 – 26 มีนาคม 2006
  • 9 ธันวาคม 2006 – 18 มีนาคม 2007
  • 11 ธันวาคม 2007 – มีนาคม 20 2008
  • 28 ธันวาคม 2008 – 31 มีนาคม 2009
  • 18 ธันวาคม 2009 – 7 เมษายน 2010
  • 19 ธันวาคม 2010 – 28 31 มีนาคม 2011

ได้ชื่อว่าสวนสัตว์คงไม่ได้มีแค่เพนกวินแน่นอนครับ มีสัตว์อีกหลายชนิดให้ได้ชมกันครับ เช่น แมวน้ำ หมีขั้วโลก ลิงอุรังอุตัง หรือหมาป่า เป็นต้นครับ (ชมได้จาก Clip และภาพข้างล่างเลยครับ)

แต่ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างชอบพาเหรดเพนกวินมากๆ เลยครับ เพราะความน่ารักของมันผมเลยวิ่งวนไปวนมาอัด Clip ถ่ายรูปอยู่หลายท่า แค่เพนกวินก็คุ้มค่าตั๋ว 800 เยนแล้วละครับ เสร็จจากดูเพนกวินก็มีสัตว์ชนิดอื่นให้เดินชมกันเพลินๆ ครับ จากสวนสัตว์ผมเลยเดินทางไปที่คลองโอตารุ ที่เมืองโอตารุต่อครับ

Continue reading “Asahiyama Zoo”

Wordpress Social Share Plugin powered by Ultimatelysocial